บ้าน ‘วินัย ไกรบุตร’
พอแต่งงานมีครอบครัว “เมฆ” วินัย ไกรบุตร ก็ห่างหายจากงานแสดงไปพักใหญ่ สงสัยคงจะสาละวนกับการทำหน้า
ที่สามีที่ดีของภรรยา “เอ๋” ชลรดา ยิ่งตอนนี้พอมีบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน “น้องมาร์ค” มาวิน ไกรบุตร วัย 5 เดือ
กว่ากำลังน่ารักน่าชัง ยิ่งทำให้เมฆทุ่มเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นในบทบาทของคุณพ่อมือใหม่ จวบจนไม่นานมานี้ เมฆ วินัย
ไกรบุตร ขอควงภรรยา เอ๋ อรชัญญาช์ มาเผยวิธีรักษาปัญหาสุขภาพ นานกว่า 3 ปี สูญค่ารักษาไปกว่า 4 ล.เผยอาการดี
ขึ้นได้เพราะบุตร นอกจากนั้น “วินัย” ยังเปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า “ต้องกู้ตังมารักษาตัว ขๅยรถของภรรยาไป 1 คัน ขๅยทิ้งเลย
ให้น้องไปกู้ตังมา 1 ล.และยืม “หนุ่ม คงกะพัน” มา 3 แสน กู้มาที่ละ 2-3 แสนบาทตอนนี้ดีขึ้นแล้วก็ตามปลดภาระ เราต้องรอ
ไม่ให้ตุ่มขึ้นมาอีก ไม่มีแผล เราค่อยลดยาได้ ถ้าเราเป็นแผลเราไม่สามารถหาตังช่วยครอบครัวสรุปแล้วตอนนี้ “วินัย ไกรบุตร”เป็นภาระ
อยู่หลักล. โดยเขาบอกว่า “ประมาณ 2 ล้านครับ เกิดจากการใช้จ่ายเดือนละเป็นแสน ที่มาจากการรักษา ทุกวันนี้เพิ่งลุกขึ้นมาขๅยของได้
และตามปลดภาระเลย ถ้าหายก็คงมีงานเข้ามา ผมขอโทษด้วยจริงๆ มีงานติดต่อมา ไม่สามารถไปถ่ายได้จริง” ย้อนกลับไปเมฆ วินัยโดยเจ้า
ตัวได้เปิดใจเรื่องนี้กับทีมข่าวไทยรัฐทีวีพร้อมหลั่งน้ำตา ว่าอยากได้ยๅรักษา ไม่ได้อยากได้ตังบริจาค โดยตอนนี้ยังขๅยของหาตังรักษาตัวได้
และไม่อยากให้ภรรยาต้องมาทนอยู่กับตัวเอง”กับภรรยาสงสารเขาครับ สงสารเขา ผมเป็นหลายรอบแล้ว จะให้เขานอนเฝ้าดาราแก่ๆ วินัย
ไกรบุตรไปกี่ปี มานอนเฝ้าเน่าๆ อยู่ 3-4 ปี มันเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปมั้ย ไล่แล้วเขาไม่ไป ตอนนี้ขอยๅได้มั้ย ไม่เอากำลังใจ ขอจากแฟนคลับทุกคน
ไม่ต้องการตัง ไม่ต้องการกำลังใจ อยากได้ยากินแล้วหาย กินแล้วหายเลย ไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น ผมขอยากินแล้วหายไม่ต้องมาช่วยอย่างอื่นตอนนี้
ผมมาอยู่ที่กระบี่ จนกว่าจะดีขึ้นกว่านี้ จนกว่าจะขับรถได้ และCVกรุงเทพฯ ซาลง อยู่ที่นี่เป็นบ้านของผม ตอนนี้ก็นอนขๅยของ เพราะบุตรต้องกินต้อง
ใช้ต้องเรียนออนไลน์ต้องมีค่าเทอมผมไม่เปิดรับบริจาค ไม่บอกเลขบัญชีเพราะผมไม่อยากได้ตังบริจาค ผมไม่อยากได้ ผมมีของขๅย ผมไม่ต้องการให้โอนตังมาให้
ผมมีของที่แลกเปลี่ยนเอาตังมาซื้อ ผมภูมิใจว่า ผมยังมีมือมีเท้าไม่ได้นอนติดเตียง คนที่อยากช่วย ช่วยซื้อของผมดีกว่า ผมยังทำได้ ก็ยังมีคนช่วยซื้อ ผมไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอีโก้ ไม่ส่วนใครจะบริจาคอยากให้ช่วยคนที่เขาไปต่อไม่ได้ ไม่มีความหวังจริงๆ สงสารคนที่เขาลำบากจริงๆ”
