ทั้งนี้ สองสามีภรรยาเจ้าของที่ที่ขุดพบ ก็ได้เชิญหมอทรงมาทำพิธีเข้าทรงดูก็เชื่อว่าวัตถุโบราณที่พบมีอายุหลายร้อยปี แต่ไม่สามารถระบุได้กว่าอยู่ในยุคสมัยใด ทั้งยังสันนิษฐานว่าบริเวณดังกล่าวก็น่าจะเป็นแดนประหาร และคุกสมัยโบราณ เพราะวัตถุโบราณที่พบส่วนใหญ่เป็นเครื่องพันธนาการที่ใช้สำหรับนักโทษ อย่างไรก็ตาม ทางผู้นำชุมชนก็ได้ประสานไปยังทางสำนักศิลปากรที่ 12 จ.นครราชสีมา เพื่อมาตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้งว่า วัตถุโบราณที่พบอยู่ในยุคสมัยใดและมีอายุราวกี่ปี ส่วนในเบื้องต้นก็จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งจัดเวรยามดูแลรักษาด้วย
นายสุพล เจียมผักแว่น เล่าว่า ก่อนจะขุดพบพ่อตาซึ่งเสียชีวิตไปกว่า 20 ปี แล้วได้มาเข้าฝันว่ามีของมีค่าฝังอยู่ใต้ดินในที่สวนดังกล่าว รุ่งเช้าจึงได้ใช้จอบมาลองขุดดูพอขุดลึก ก็พบเคียวและโซ่ตรวนสมัยโบราณฝังอยู่จริง จึงได้นำธูปเทียนมาจุดกราบไหว้ตามความเชื่อก่อนจะนำวัตถุโบราณที่ขุดพบขึ้นมาจากหลุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบและทำบันทึกไว้
ด้านนายอัษฎาวุธ เกตุผักแว่น กำนันตำบลชุมแสง ล่าวว่า จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ทราบว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองเก่าแก่ ชื่อว่า “เมืองไผ่” หรือเมือง “ผไล” ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีชาวบ้านขุดพบวัตถุโบราณหลายครั้ง ทั้งเครื่องปั้นดินเผา หม้อไห เครื่องประดับ พระพุทธรูปเก่าแก่ รวมถึงกระดูกมนุษย์โบราณด้วย
ทำให้สันนิษฐานได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองเก่าแก่ และจากข้อมูลก็พบว่าในอดีตเคยมีนักล่าสมบัติเคยมาลักลอบขุด หาของเก่าโบราณในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนวัตถุโบราณที่ขุดพบในครั้งนี้ชาวบ้านก็จะส่งมอบให้กับกรมศิลปากร เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป